วัคซีนสำหรับหญิงตั้งครรภ์
Covid-19
วัคซีนป้องกัน โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วัคซีนนี้เป็นวัคซีนที่แนะนำ สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วัคซีนที่อนุมัติให้ฉีดได้ในหญิงตั้งครรภ์ในประเทศไทยได้แก่ Covid-19 AstraZeneca, Pfizer/BioNTech, Moderna, Sinovac, Sinopharm (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2564)
จำนวนเข็มและอายุที่แนะนำให้ฉีด
- หญิงตั้งครรภ์ควรฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3-12 สัปดาห์ แนะนำให้ฉีดเข็มแรกเมื่ออายุครรภ์ > 12 สัปดาห์
- กรณีฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ก่อนที่จะทราบว่าตั้งครรภ์ ให้รับเข็ม 2 ตามเวลาระบุของชนิดวัคซีนและรออายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์
- หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ให้ฉีดวัคซีนเข็มแรกหลังหายจากโรคแล้ว 3 เดือน
- ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนป้องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19 พร้อมกับวัคซีนชนิดอื่น ๆ ยกเว้นวัคซีนดังกล่าวมีความจำเป็นต้องฉีดตามเวลาอย่างเคร่งครัด เช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หากไม่จำเป็นเร่งด่วน ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ชนิดของวัคซีนและตารางการฉีดอาจปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ในบางกรณีอาจมีการเลื่อนช่วงอายุครรภ์ที่ควรได้รับวัคซีน ทั้งนี้ขึ้นกับกำหนดการของสถานให้บริการทางสาธารณสุขนั้น ๆ
วัคซีนชนิดสารพันธุกรรม ได้แก่ วัคซีนดีเอ็นเอ (DNA) หรือเอ็มอาร์เอ็นเอ (messenger RNA, mRNA)
Covid-19 Pfizer/BioNTech (10 ไมโครกรัม) (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 5-11 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3-12 สัปดาห์
Covid-19 Pfizer/BioNTech (30 ไมโครกรัม) (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 12 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3-12 สัปดาห์
Covid-19 Moderna (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565) สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์
วัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ (recombinant viral vector vaccine)
Covid-19 AstraZeneca (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4-12 สัปดาห์
Covid-19 CanSinoBio (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 1 เข็ม
Covid-19 Johnson & Johnson (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 1 เข็ม
Covid-19 Sputnik V (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
วัคซีนที่ทำจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ (protein subunit vaccine)
Covid-19 Novavax (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
วัคซีนชนิดเชื้อตาย (inactivated vaccine)
Covid-19 Sinovac (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565)
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 6 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์
Covid-19 Sinopharm (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565) สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 6 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์
Covid-19 Bharat (ข้อมูล ณ กุมภาพันธ์ 2565) สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลดโอกาสที่จะเกิดโรคและป่วยหนักจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
แนะนำให้ได้เมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์
Influenza
วัคซีนป้องกัน ไข้หวัดใหญ่ Influenza
วัคซีนนี้เป็นวัคซีนที่แนะนำ สำหรับผู้ที่ประสงค์จะได้รับการป้องกันโรค และแนะนำอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่รุนแรง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด (รวมหอบหืด) โรคหัวใจ เบาหวาน โรคอ้วน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคเรื้อรังอื่น ๆ เป็นต้น
จำนวนเข็มและอายุที่แนะนำให้ฉีด หญิงตั้งครรภ์ควรฉีด 1 เข็ม เมื่ออายุครรภ์ 12 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยทั่วไปแนะนำเมื่ออายุครรภ์ 16 สัปดาห์ ในบางกรณีอาจมีการเลื่อนช่วงอายุที่ควรได้รับวัคซีน ทั้งนี้ขึ้นกับกำหนดการของสถานให้บริการทางสาธารณสุขนั้น ๆdT และ Tdap
วัคซีนป้องกันโรค คอตีบ-บาดทะยัก (dT) และวัคซีนป้องกันโรค คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์ (Tdap)
วัคซีนนี้เป็นวัคซีนที่แนะนำ
- หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยักมาก่อน หรือฉีดวัคซีน dT ครั้งสุดท้ายเกิน 10 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีน 3 เข็ม โดย
- ฉีดวัคซีน (dT) เป็นเข็มที่ 1 เมื่ออายุครรภ์ 12 สัปดาห์เป็นต้นไป แนะนำให้ฉีดวัคซีน dT เข็มแรกที่อายุครรภ์ 23 สัปดาห์เป็นต้นไป
- ฉีดวัคซีน Tdap เป็นเข็มที่ 2 (ทดแทน dT เข็มที่ 2) ห่างจากเข็มแรก 4-6 สัปดาห์ ที่อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ เพื่อช่วยส่งผ่านภูมิไปคุ้มกันไปยังทารก
- ฉีดวัคซีน dT เป็นเข็มที่ 3 ห่างจากเข็มแรก 6 เดือน หรือพิจารณาฉีดเข็มที่ 3 หลังคลอด จากนั้นให้ฉีดกระตุ้นด้วย dT (Td) หรือ Tdap ทุก 10 ปี
- หญิงตั้งครรภ์ที่เคยได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยักครบ 3 เข็มมาก่อน และฉีดวัคซีน dT ครั้งสุดท้ายไม่เกิน 10 ปี แนะนำให้ฉีด Tdap เป็นเข็มกระตุ้นในทุกการตั้งครรภ์ 1 เข็ม ที่อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ เพื่อช่วยส่งผ่านภูมิไปคุ้มกันไปยังทารก
- ในบางกรณีอาจมีการเลื่อนช่วงอายุที่ควรได้รับวัคซีน ทั้งนี้ขึ้นกับกำหนดการของสถานให้บริการทางสาธารณสุขนั้น ๆ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- สำหรับวัคซีนชนิดอื่น ๆ ควรปรึกษาบุคลากรทางสาธารณสุขก่อนฉีดและควรแจ้งแพทย์ว่าตั้งครรภ์ ก่อนรับวัคซีนทุกครั้ง
- ควรนำสมุดบันทึกสุขภาพและการรับวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง ขอรับการบันทึกข้อมูลทุกครั้ง และเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
- หากมีไข้สูงควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน แต่หากเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด หรือมีน้ำมูกไหล สามารถรับวัคซีนได้
- หากได้รับเลือดหรือผลิตภัณฑ์ของเลือดในช่วงเวลา 6-12 เดือนที่ผ่านมา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเสมอ
- ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับวัคซีน หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคที่มีผลต่อภูมิคุ้มกัน โรคที่ต้องกินยาที่ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันเช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ เคมีบำบัด โรคทางระบบประสาท เช่น ลมชัก ฯลฯ
- เพื่อประโยชน์สูงสุด ควรไปรับวัคซีนตามนัดทุกครั้ง หากลืม ควรพาไปรับวัคซีนทันทีเมื่อนึกได้ โดยสามารถฉีดวัคซีนต่อได้เลย ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นนับใหม่
- ผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนส่วนใหญ่ไม่รุนแรง อาจพบว่ามีไข้หรืออาการเจ็บตรงบริเวณที่ฉีดได้ แต่หากมีอาการผิดปกติเช่น มีผื่น ไข้สูง ชัก พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง หายใจลำบาก เสียงแหบ หอบ ซีด อ่อนเพลีย บวม ควรพาไปพบแพทย์ทันที
- ในบางกรณีอาจมีการเลื่อนช่วงอายุที่ควรได้รับวัคซีน ทั้งนี้ขึ้นกับกำหนดการของสถานให้บริการทางสาธารณสุขนั้น ๆ
เรียบเรียงโดย: นพ. นราทัศพล ลิขิตดี นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล พญ.รสวันต์ อารีมิตร พญ.ผกากรอง ลุมพิกานนท์
แหล่งข้อมูล: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยสูติแพทย์แห่งประเทศไทย และข้อมูลวัคซีนป้องกัน โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมควบคุมโรค