อุปกรณ์ ของเล่นและการป้องกันอุบัติเหตุของลูกวัย 6-12ปี

☛ หากนั่งรถยนต์ควรนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (car seat)
ที่ได้มาตรฐานทุกครั้งตลอดการเดินทาง
☛ เมื่อลูกอายุ 4-7 ปี
และลูกมีน้ำหนักหรือส่วนสูงเกินกำหนดการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเล็กแล้ว
ให้เปลี่ยนมาใช้ที่นั่งเสริม (booster seat) ซึ่งติดตั้งที่เบาะหลังของรถ
☛
เมื่อลูกอายุ 8-12 ปีควรนั่งในที่นั่งเสริม (booster seat)
ซึ่งติดตั้งที่เบาะหลังของรถ จนกว่าจะสามารถใช้เข็มขัดในรถได้พอดี
ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ได้เมื่ออายุมากกว่า 9 ปี หรือสูงกว่า 140 ซม.
☛ เด็กอายุน้อยกว่า 13 ปี ให้นั่งที่เบาะหลังเท่านั้น
☛เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
หากทุกคนในรถไม่คาดเข็มขัดนิรภัยและลูกไม่นั่งในที่นั่งนิรภัยไม่ควรติดเครื่องยนต์
☛ก่อนออกรถทุกครั้งต้องสำรวจว่าไม่มีเด็กๆ อยู่ใกล้รถ
☛
ควรสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐานทุกครั้งที่โดยสารรถจักรยานและจักรยานยนต์
☛
สอนวิธีการใช้ระบบขนส่งมวลชน การเดินทางเท้า
และการข้ามถนนอย่างปลอดภัย
☛
วัยนี้ไม่ให้ปล่อยให้วิ่งเล่นหรือขี่จักรยานบนถนนและทางเท้า
☛ ควรฝึกให้ขี่จักรยานให้ถูกวิธี ปลอดภัย ตามกฎจราจร

☛
ระวังอันตรายจากการจมน้ำ
โดยเฉพาะแหล่งน้ำในชุมชนและแหล่งน้ำในบริเวณใกล้เคียงเส้นทางที่ใช้เดินทางประจำ
☛
สอนลูกให้รู้จักอันตรายที่อาจเกิดจากการเล่นน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ควรสอนให้รู้จักแหล่งน้ำที่เสี่ยงและการหลีกเลี่ยง
☛ ควรสอนการลอยตัวในน้ำและฝึกว่ายน้ำ
☛ ควรสวมชูชีพทุกครั้งที่เดินทางทางน้ำ
☛ ควรดูแลใกล้ชิด ไม่ปล่อยลูกอยู่ในที่สูงตามลำพัง
☛
ควรให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัย
ควรตรวจสอบสนามเด็กเล่นว่าเครื่องเล่นมีการยึดอยู่กับฐานอย่างปลอดภัย
และไม่ควรสูงเกิน 150 ซม.
☛ ควรตรวจสอบอุปกรณ์กีฬา เสาฟุตบอล แป้นบาสเก็ตบอล
และเครื่องเล่นสนามที่มีน้ำหนักมาก ว่าจัดอย่างเหมาะสม
ยึดติดกับกำแพงหรือพื้นไม่ให้ล้มคว่ำได้ง่าย

☛ ควรมีป้ายเตือนข้อควรระวังในการใช้เครื่องไฟฟ้าทุกชนิด และควรต่อสายดินและติดตั้งเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ

☛ อย่าปล่อยลูกไว้ตามลำพังกับสัตว์เลี้ยง นำสุนัข
แมวที่เลี้ยงไว้ไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าตามกำหนดทุกครั้ง
☛ สอนลูกไม่ให้เล่นกับสัตว์จรจัด สุนัขแม่ลูกอ่อน
และลูกสุนัขที่มีแม่อยู่ด้วย
☛ สอนลูกไม่ให้รังแกสัตว์ เช่น ดึงหู ดึงหาง เตะ แย่งจานอาหาร
และแย่งของเล่น
☛ ดูแลบริเวณรอบบ้านอย่าให้มีแมลงหรือสัตว์มีพิษมาทำรัง เช่น ผึ้ง ต่อ
แตน

☛ ควรมีภาชนะ และตู้สำหรับเก็บยาและสารเคมี อย่างเหมาะสม เด็กเปิดไม่ได้
และเก็บให้พ้นมือเด็ก
☛
หากลูกกินยาหรือสารพิษเข้าไป ควรติดต่อศูนย์พิษวิทยา 1367
เพื่อขอคำแนะนำในการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี

☛
ผู้ดูแลเด็กควรได้รับการฝึกปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น
หากมีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ โทร 1669
☛ ไม่ควรเก็บอาวุธปืนไว้ในบ้าน หากจำเป็น
ควรเก็บปืนที่ไม่ได้ใส่กระสุนปืนไว้อย่างมิดชิด
เก็บปืนและกระสุนปืนไว้แยกจากกัน
☛ ไม่ควรให้ลูกเล่นของเล่นอันตราย เช่น พลุ ดอกไม้ไฟ
☛
ผู้ดูแลไม่ควรปล่อยให้เด็กใช้ความรุนแรงต่อกันหรือรังแกกัน
☛
ผู้ดูแลไม่สนับสนุน ไม่จ้างวานให้ลูกซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่
ของมึนเมาและสิ่งเสพติด และควรเป็นตัวอย่างการปฏิบัติตัวที่ดี
☛ สอนให้รู้จักป้องกันตนเองจากบุคคลอันตราย
☛
สอนให้ลูกรู้จักบอกเมื่อผู้อื่นมากระทำหรือปฏิบัติโดยมิชอบ
☛
ฝึกวิธีการจัดการความขัดแย้งอย่างเหมาะสม เช่น รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
การยอมรับผิด การปรับปรุงตัว
เรียบเรียงโดย : พญ.รสวันต์ อารีมิตร นพ.ชาญยุทธ์ ศุภคุณภิญโญ นพ.วิบูลย์ วีระอาชากุล
แหล่งข้อมูล : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย